สารให้ความหวานเป็นยังไง?
สารให้ความหวาน เช่น น้ำตาลเทียมเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมา โดยจะให้ความหวานราวกับน้ำตาลก็เลยสามารถประยุกต์ใช้แทนน้ำตาลได้ ทั้งได้รับการยืนยันจากหน่วยงานของกินแล้วก็ยาว่ามีความปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งดังนี้น้ำตาลเทียมก็มีมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายอย่าง แต่ว่าที่ได้รับการยินยอมรับแล้วก็มีการประยุกต์ใช้อย่างล้นหลามที่สุด ก็คือ แซคคาริน แอสปาแทมนั่นเอง
แอสปาแทม เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลหรือน้ำตาลเทียม ซึ่งจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 2 จำพวก เป็นต้นว่า ฟินิลอลานินและก็กรดแอสปาติเตียนก โดยสามารถใช้แทนความหวานได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจ แม้กระนั้นก็มีการเตือนอยู่ว่า ห้ามใช้ในรอบฟินิลคีโตนูเรีย ซึ่งพบว่าในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานปกติแล้วจะไม่อาจจะใช้ประโยชน์จากกรดอะมิโนฟินิลอลานินได้ กลับกำเนิดพิษจากการได้รับกรดประเภทนี้ได้ แต่โรคนี้สามารถตรวจวิเคราะห์เจอได้ง่าย ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับการเตือนเท่าไรนัก
รวมทั้งเหตุเพราะน้ำตาลเทียมไม่เป็นผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด คนเจ็บโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ค่อยได้หรืออยากควบคุมน้ำหนัก ก็สามารถใช้น้ำตาลเทียมสำหรับการเข้าครัวหรือใส่ด้านในเครื่องดื่มแทนได้เช่นเดียวกัน แต่ว่าก็จำเป็นต้องใช้น้ำตาลเทียมอย่างแม่นยำแล้วก็ถูกทาง เพื่อไม่ให้กำเนิดโทษตามมานั่นเอง และก็ที่สำคัญไม่สมควรนำน้ำตาลเทียมมาปรุงในของกินร้อนๆเด็ดขาด โดยยิ่งไปกว่านั้นน้ำตาลเทียมจำพวกซัคคารีนแล้วก็แอสปาแทม เพราะเหตุว่าทนไฟได้เพียงแค่ไม่เกิน 65 องศาเซลเซียสแค่นั้น แม้เกินจากนี้จะมีผลให้กำเนิดโทษได้ท้ายที่สุด
จำพวกของสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
1.แอสปาแทม
แอสปาแทมสามารถให้ความหวานถึงที่กะไว้ 200-300 เท่าของน้ำตาลรวมทั้งมีรสชาติความหวานที่ใกล้เคียงกับน้ำตาลเยอะที่สุด ก็เลยนิยมประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการเพิ่มความหวานให้กับเครื่องดื่ม อย่างเช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือเอามาใส่ไว้ด้านในอาหารแห้ง ไอศกรีม และก็พวกอาหารหวานทั้งหลายแหล่ ฯลฯ แม้กระนั้นก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน ซึ่งก็คือแอสปาแทมจะไม่ทนต่อความร้อน โดยจะมีการเสื่อมสภาพเมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูงรวมทั้งในภาวะความเป็นกรดด่างที่ไม่เหมาะสม ก็เลยทำให้
ความหวานลดลงหรือสูญเสียไปจนกระทั่งหมดเกลี้ยง ยิ่งกว่านั้นถ้าเกิดใช้ในจำนวนสูงมากมาย ก็อาจจะทำให้เป็นโรคมะเร็งและก็สมองมีความผิดธรรมดาได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องทานแอสปาแทมในจำนวนที่สมควร โน่นเป็นไม่เกินวันละ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ของน้ำหนักตัวนั่นเอง
2.ซัยคลาเมต
เป็นน้ำตาลเทียมที่ให้ความหวานราวๆ 30 เท่าของน้ำตาล และไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย การทานน้ำตาลเทียมประเภทนี้ก็เลยไม่ทำให้อ้วนนั่นเอง และก็ยังให้รสของของกินที่พอดิบพอดี ไม่หวานเหม็นเบื่อจนถึงเกินความจำเป็นอีกด้วย แม้กระนั้นในขณะนี้สารให้ความหวานประเภทนี้ได้ถูกห้ามใช้ไปแล้ว เพราะว่าเมื่อราวปี พุทธศักราช2500 ได้มีการศึกษาค้นพบว่าสารตัวนี้บางทีอาจเป็นต้นเหตุที่กระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
3.ซัคคารินหรือขันฑสแขน
ซัคคารินจะให้ความหวานที่โดยประมาณ 300-400 เท่าของ แทงบอลออนไลน์ น้ำตาลอย่างยิ่งจริงๆ ก็เลยให้รสที่หวานจัดและก็บางทีอาจหวานติดลิ้นได้ แม้กระนั้นไม่ให้พลังงาน ก็เลยไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจเรื่องความอ้วนหรือระดับน้ำตาลในเลือดนั่นเอง แม้กระนั้นดังนี้แม้ใช้ในจำนวนมากก็อาจจะทำให้กำเนิดความรู้สึกขมคอได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านี้ยังพบว่าการทานซัคคารินในขนาด 5-25 กรัมต่อวันติดต่อกันนานหรือทานในคราวเดียวที่ 100 กรัม ก็จะก่อให้กำเนิดอาการอ้วก คลื่นไส้ เจ็บท้อง ท้องร่วง ง่วงซึมหรือชักได้อีกด้วย โดยเหตุนี้ก็เลยไม่นิยมนำซัคคารินมาใช้แทนน้ำตาลมากเท่าไรนัก โดยสำหรับของกินที่นิยมใส่ซัคคารินก็ได้แก่ ไอติม ของ ufabet หวานรวมทั้งผลไม้ดอง ฯลฯ
4.อะสิซัลเฟม เค
สำหรับน้ำตาลเทียมประเภทนี้ ทางหน่วยงานของกินและก็ยาของสหรัฐฯอนุญาตให้ประยุกต์ใช้ผสมของกินได้ โดยมีคุณลักษณะสำหรับการให้ความหวานที่สูงกว่าน้ำตาลถึง 200 เท่า แม้กระนั้นไม่ให้พลังงาน ก็เลยสามารถประยุกต์ใช้ในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานรวมทั้งคนที่อยากได้ควบคุมน้ำหนักได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในขณะนี้ก็มีการใช้น้ำตาลเทียมตัวนี้อยู่ราว 20 ประเทศ โดยจะนิยมใส่ด้านในน้ำอัดลม ทอฟฟี่ อาหารหวานต่างๆรวมทั้งเครื่องดื่มจำพวกอื่นๆนั่นเอง
No comments:
Post a Comment